ข่าวประชาสัมพันธ์

สทน. –กรมศิลปากรจับมือต่ออายุความร่วมมือทางวิชาการอีก 5ปีใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์สนับสนุนงานด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีของชาติ

10 สิงหาคม 2563
สทน.และกรมศิลปากรจึงได้ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการมาตั้งแต่ปี 2557  เพื่อร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์มาใช้สนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า  ฟื้นฟูอนุรักษ์โบราณวัตถุและศิลปวัตถุของชาติมีกรอบระยะเวลา 5 ปี  โดยกำหนดกิจกรรมที่จะดำเนินการร่วมกัน ได้แก่  1) งานวิจัยและพัฒนา  2) การสำรวจวิเคราะห์และเก็บตัวอย่าง  3) การเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้จากประโยชน์ได้รับจากการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเมื่อปีพ.ศ.2557  กรมศิลปากรและสทน.จึงเห็นพ้องร่วมกันว่า สมควรที่จะขยายระยะเวลาของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการออกไปอีก 5 ปีสำหรับขอบเขตความร่วมมือ  กรมศิลปากรและสทน.จะประสานความร่วมมือทางวิชาการ  เพื่อยกระดับความรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของบุคลากรทั้งสองฝ่าย  ร่วมกันศึกษา วิจัย และพัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์  เพื่อนำมาใช้สนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า ฟื้นฟูและการอนุรักษ์โบราณสถานโบราณวัตถุและศิลปวัตถุซึ่งเป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ  โดยสทน.และกรมศิลปากรตกลงร่วมกันในการจัดหางบประมาณเพื่อดำเนินการเพื่อดำเนินกิจกรรมดังกล่าวจนบรรลุผลสำเร็จ

รศ.ดร.ธวัชชัย กล่าวสรุปว่า การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์เข้ามาช่วยในการศึกษาโบราณวัตถุทำให้เราไม่ต้องส่งชิ้นส่วนของโบราณวัตถุไปตรวจสอบอายุในต่างประเทศเช่นในอดีตที่ผ่านมาเป็นเทคโนโลยีที่สามารถดำเนินการได้เองในประเทศไทยการตรวจวิเคราะห์ก็มีความถูกต้องแม่นยำ อีกทั้ง ห้องปฏิบัติการไอโซโทป ของสทน.ยังได้รับการรับรองจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์จำนวนหนึ่งจาก IAEA อีกด้วย.  สทน.ได้พัฒนาปรับปรุงห้องปฏิบัติการตลอดเวลาและเชื่อว่าห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมและโบราณคดีของ สทน.มีความทันสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้